โครงการ

Close

เกษตรวิถีธรรมชาติ

โครงการ SALANA Participatory Guarantee System (SALANA PGS)

โครงการ SALANA Participatory Guarantee System (SALANA PGS)

เกษตรกรเครือข่าย

เพราะมาตรฐานที่ดี เป็นทั้งกรอบการทำงานที่แข็งแรง และความเชื่อมั่นไว้วางใจ ใน พ.ศ. 2561 มูลนิธิสุทธิรัตน์ อยู่วิทยา ร่วมกับ บริษัท ศาลานา ออแกนิค วิลเลจ (วิสาหกิจเพื่อสังคม) จำกัด ออกแบบและพัฒนาระบบควบคุมภายใน (Internal Control System: ICS) จัดทำกรอบการทำงานที่ช่วยให้เกษตรกรที่ผันตัวจากการทำเกษตรเคมีมาเป็นเกษตรอินทรีย์ ได้มีแนวทางในการจัดการแปลงเกษตรของตัวเอง โดยไม่ต้องเสียเวลาลองผิดลองถูก

        เริ่มตั้งแต่การคัดเลือกเมล็ดพันธุ์ เพาะปลูก เก็บเกี่ยว เก็บรักษา ไปจนถึงการจัดจำหน่าย เพื่อให้แน่ใจว่าผลผลิตอินทรีย์ที่ได้ไม่ปนเปื้อนสารเคมีอันตราย ส่งถึงมือผู้บริโภคได้อย่างมั่นใจ และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมอย่างแท้จริง นอกจากนี้ ยังออกใบรับรองมาตรฐานเกษตรอินทรีย์ SALANA PGS ให้กับแปลงเกษตรอินทรีย์ที่ผ่านมาตรฐาน โดยรับรองหมวดหมู่ผลผลิตครอบคลุม ทั้งพืชผักผลไม้ ประมง ปศุสัตว์ ผึ้งและชันโรง รวมไปถึงอาหารแปรรูป เพื่อตอบโจทย์ครอบคลุมความต้องการของผู้บริโภค ที่ให้ความสำคัญกับการเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ที่ยั่งยืน


        ที่ผ่านมา โครงการได้ดำเนินกิจกรรมที่ช่วยสนับสนุนเกษตรกรทั้งรายเดี่ยวและรายกลุ่ม เริ่มตั้งแต่ การประเมินความเสี่ยงระบบการผลิตของเกษตรกรรายใหม่ เพื่อเตรียมความพร้อมของเกษตรกรที่ต้องการเข้าร่วมโครงการในปีแรก พร้อมให้คำแนะนำในการปรับแก้ไขในเบื้องต้น การขึ้นทะเบียนเกษตรกรรายใหม่และต่ออายุเกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการ โดยเกษตรกรทุกรายจะต้องผ่านการตรวจเยี่ยมระบบการผลิตในทุกขั้นตอน การฝึกอบรมเกษตรอินทรีย์ให้กับเจ้าหน้าที่ ICS และเกษตรกร เพิ่มพูนความรู้ทางทฤษฎีและทักษะด้านปฏิบัติให้ผู้ที่มีเกี่ยวข้องเกิดความเชี่ยวชาญและมั่นใจในการทำงาน การตรวจและรับรองระบบการผลิตของเกษตรกร ซึ่งถือเป็นหัวใจหลักของโครงการ โดยให้ความสำคัญกับรายละเอียดต่างๆ อาทิ ในพื้นที่แปลงเกษตรต้องไม่มีการปนเปื้อนสารเคมี เว้นระยะกันชนจากแปลงใกล้เคียงที่มีการใช้สารเคมี เลือกกำจัดวัชพืขและศัตรูพืชด้วยวิธีที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ฯลฯ เพื่อให้แปลงของเกษตรกรเป็นไปตามมาตรฐานเกษตรอินทรีย์ SALANA PGS นอกจากนี้ ยังเพิ่มความเชื่อมั่นให้ผู้บริโภค ด้วย การสุ่มตรวจการปนเปื้อนของสารเคมีในผักและผลไม้ มีการติดตามและประเมินประสิทธิภาพของระบบควบคุมภายในในขั้นตอนสุดท้าย การเชื่อมโยงเกษตรกรกับตลาดเพื่อสุขภาพ ผ่าน บ้านนกมาร์เก็ต ซึ่งเป็นพื้นที่ให้เกษตรกรได้ขายผลผลิตโดยไม่ต้องพึ่งพ่อค้าคนกลาง รวมทั้ง การเชื่อมโยงผู้ปลูกข้าวอินทรีย์กับบริษัท ศาลานา ออแกนิค วิลเลจ (วิสาหกิจเพื่อสังคม) จำกัด ทำสัญญาซื้อขายล่วงหน้าในราคาเป็นธรรม เพื่อให้ผลผลิตที่ได้มาตรฐานจากเกษตรกรในโครงการ มีตลาดรับซื้ออย่างต่อเนื่อง

            กว่า 5 ปีที่โครงการลงพื้นที่เข้าไปเป็นพี่เลี้ยงให้กับเกษตรกรรายย่อย ก่อให้เกิดเครือข่ายเกษตรกรที่มีความรู้ ความเข้าใจในด้านเกษตรอินทรีย์ เพราะการให้ความสำคัญกับการรับรองแบบมีส่วนร่วม (Participatory Guarantee Systems : PGS) เปิดโอกาสให้เกษตรที่อยู่ในโครงการผลัดกันตรวจแปลงให้ได้ตามมาตรฐานระบบควบคุมภายใน เกิดการแลกเปลี่ยนความรู้และนำไปปรับใช้ในพื้นที่ของตนอยู่เสมอ อีกทั้งตอบโจทย์เกษตรกรอินทรีย์มือใหม่ที่ต้นทุนน้อย ลดข้อจำกัดในการได้รับมาตรฐานอินทรีย์ เนื่องจากค่าใช้จ่ายไม่สูงเหมือนมาตรฐานอินทรีย์แบบอื่นๆ ช่วยให้เกษตรกรมีเครื่องหมายการันตี ผลักดันผลผลิตให้เข้าถึงผู้บริโภคที่มีกำลังซื้อ รวมไปถึงการเป็นบันไดขั้นแรกให้เกษตรกรคุ้นชิน ก่อนจะต่อยอดไปสู่การขอรับรองมาตรฐานอินทรีย์สากลในอนาคต

ขณะเดียวกัน มาตรฐานเกษตรอินทรีย์ SALANA PGS ยังเป็นความมั่นใจให้ผู้บริโภคได้แยกแยะระหว่างผลผลิตทางการเกษตรในระบบอินทรีย์กับระบบเคมี และเข้าถึงอาหารปลอดภัยในราคาที่จับต้องได้จากเกษตรกรอินทรีย์ในประเทศ 

โครงการ SALANA Participatory Guarantee System (SALANA PGS)

เกษตรกรเครือข่าย


การดําเนินงานโครงการ

ดำเนินงานกิจกรรมให้ความรู้ ตรวจรับรองมาตรฐานเกษตรอินทรีย์ SALANA PGS แก่เกษตรกรทั้งรายเดี่ยวและรายกลุ่ม พร้อมผลักดันเข้าสู่ระบบตลาดเกษตรอินทรีย์

1 ให้ความรู้เรื่องการผลิตในระบบเกษตรอินทรีย์

ดำเนินงานลงพื้นที่ให้ความรู้กับเกษตรกรที่มีความสนใจทำเกษตรอินทรีย์ โดยการให้ความรู้เกี่ยวกับมาตรฐานเกษตรอินทรีย์ การเตรียมความพร้อมในการปรับเปลี่ยน วิธีการผลิต ขั้นตอนการขอรับรองมาตรฐาน และโอกาสทางการตลาด

2 ตรวจ และรับรองมาตรฐานเกษตรอินทรีย์ SALANA PGS

ดำเนินงานตรวจ รับรองมาตรฐานเกษตรอินทรีย์ SALANA PGS จำนวน 38 ราย โดยมีเกษตรกรได้รับการรับรอง จำนวน 33 ราย และไม่ได้รับการรับรอง จำนวน 5 ราย ซึ่งมีรายละเอียดการรับรอง ดังนี้

2.1 การรับรองมาตรฐานโดยไม่มีเงื่อนไข(ปฏิบัติตามข้อกําหนด) จำนวน 26 ราย โดยเกษตรกรมีการปฏิบัติ ดังนี้ :

1) มีการจัดการระบบควบคุมภายใน (Internal Control System : ICS) เพื่อควบคุมกระบวนการผลิตของสมาชิกในกลุ่ม ตั้งแต่การเพาะปลูก การเก็บเกี่ยว การเก็บรักษา และการจำหน่าย ที่เป็นไปตามมาตรฐานควบคุมภายใน
2) มีวิธีการในการจัดการศัตรูพืชและการระบาดของโรคด้วยวิธีที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เช่น การยับยั้งการระบาดของเพลี้ยกระโดดสีน้ำตาลในนาข้าวด้วยการฉีดพ่นน้ำหมักสะเดา เป็นต้น
3) มีการเก็บเมล็ดพันธุ์ และการอนุรักษ์พันธุ์ข้าวอินทรีย์ เพื่อใช้ในการเพาะปลูกในฤดูกาลถัดไป
4) มีการอนุรักษ์วัฒนธรรมประเพณีเกี่ยวกับข้าว อาทิ พิธีแรกนา พิธีรับท้องข้าว พิธีแรกเกี่ยว พิธีบุญคูณลาน พิธีสู่ขวัญข้าว ประเพณีก่อเจดีย์ข้าวเปลือก เป็นต้น ซึ่งแสดงให้เห็นถึงการเคารพต่อธรรมชาติที่ถ่ายทอดผ่านวัฒนธรรมประเพณีดั้งเดิม

2.2 การรับรองมาตรฐานโดยมีเงื่อนไข (ต้องแก้ไขให้เป็นไปตามข้อกําหนด) จำนวน 7 ราย โดยมีข้อเสนอแนะสำหรับเกษตรกร ดังนี้ :

1) อาหารสัตว์มีส่วนผสมของวัสดุอินทรีย์ไม่เป็นไปตามข้อกำหนด โดยแนะนำเกษตรกรปรับสูตรอาหารสัตว์ให้มีส่วนผสมของวัสดุอินทรีย์ไม่ต่ำกว่าร้อยละ 60
2) แนวกันชนบางจุดมีความเสี่ยงต่อการปนเปื้อนสารเคมีจากแปลงข้างเคียง โดยแนะนำเกษตรกรปรับปรุงแนวกันชน ด้วยการปลูกพืชหรือใช้วัสดุอื่นๆ เช่น สแลน ในระดับที่สูงกว่าพืชที่ขอรับรอง
3) การผลิตมีความเสี่ยงต่อการใช้สารเคมี เนื่องจากพบภาชนะบรรจุสารเคมีในแปลง เช่น กระสอบปุ๋ยเคมีที่นำมาใส่วัสดุเพาะปลูก ซึ่งอาจมาจากการขาดความเข้าใจในเรื่องการแยกเก็บหรือการทำลายที่ถูกต้อง โดยแนะนำให้เกษตรกรนำภาชนะดังกล่าวออกจากแปลงที่ขอรับรอง และทำความเข้าใจเกี่ยวกับข้อกำหนดเรื่องการจัดเก็บวัสดุและปัจจัยการผลิต
4) การจดบันทึกกิจกรรมภายในฟาร์มไม่ครบถ้วน ซึ่งเกษตรกรอาจจะบันทึกข้อมูลไม่ละเอียดเพียงพอตามข้อกำหนด โดยแนะนำเกษตรกรจดบันทึกข้อมูลกิจกรรมภายในฟาร์มให้ละเอียดและเป็นปัจจุบัน
5) แหล่งน้ำที่ใช้ในการเพาะปลูกมีความเสี่ยงต่อการปนเปื้อนสารเคมี เนื่องจากมีการใช้น้ำจากแหล่งน้ำสาธารณะที่ไหลผ่านแปลงเคมี หรือโรงงานอุตสาหกรรม โดยแนะนำเกษตรกรให้มีการแก้ไขป้องกันให้สอดคล้องกับข้อกำหนด เช่น การปลูกพืชกรองน้ำ การทำบ่อพักน้ำ เป็นต้น เพื่อลดการปนเปื้อนของสารเคมีในแปลง

2.3 การไม่รับรองมาตรฐาน (ไม่ปฏิบัติตามข้อกําหนด) จำนวน 5 ราย โดยมีข้อเสนอแนะสำหรับเกษตรกร ดังนี้ :

1) อาหารสัตว์ที่เกษตรกรใช้มีส่วนผสมของยาปฏิชีวนะ ไม่เป็นไปตามข้อกำหนดของมาตรฐานเกษตรอินทรีย์ SALANA PGS โดยเกษตรกรต้องเปลี่ยนมาใช้อาหารสัตว์อินทรีย์จากแหล่งจำหน่ายที่สามารถตรวจสอบและเชื่อถือได้
2) อาหารแปรรูปมีส่วนผสมของสารสังเคราะห์ ไม่เป็นไปตามข้อกำหนดของมาตรฐานเกษตรอินทรีย์ SALANA PGS โดยเกษตรกรต้องศึกษาและทำความเข้าใจหลักเกณฑ์การรับรองในขอบข่ายรายการอาหารอินทรีย์ในร้านอาหารอย่างละเอียด
3) มีการผลิตแบบคู่ขนาน คือ การเพาะปลูกพืชชนิดเดียวกันในแปลงที่ขอรับการรับรองและแปลงเคมี หรือแปรรูปผลผลิต ผลิตภัณฑ์ชนิดเดียวกันในแบบอินทรีย์และในแบบเคมี ในช่วงเวลาเดียวกัน โดยเกษตรกรต้องมีการปรับเปลี่ยนกระบวนการผลิตให้เป็นไปตามข้อกำหนดของมาตรฐานเกษตรอินทรีย์ SALANA PGS
4) ไม่มีแนวกันชนป้องกันการปนเปื้อนสารเคมีจากแปลงข้างเคียง โดยเกษตรกรต้องสร้างแนวกันชน เพื่อให้มั่นใจได้ว่าไม่เสี่ยงต่อการปนเปื้อนสารเคมีทั้งทางน้ำและทางอากาศ
5) มีการใช้สารเคมีในแปลง โดยเกษตรกรต้องหยุดใช้สารเคมีทุกชนิดในกระบวนการผลิต และเข้าสู่ระยะปรับเปลี่ยนไม่ต่ำกว่า 12 เดือน